ข้อมูลที่บริษัทขนย้ายทั่วไปไม่บอกคุณ

.

การพิจารณาใช้บริการขนย้าย มีองค์ประกอบสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ดังต่อไปนี้

.
​เพราะการขนย้ายสำนักงาน ไม่ใช่แค่เรื่องของการขนย้ายสิ่งของจากจุด A ไปจุด B เท่านั้น หากวางแผนไม่ดี อาจทำให้งานสะดุดและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น ซึ่งนอกจากเรื่องของค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมีอีก 2 เรื่องที่สำคัญที่หลายคนมักมองข้าม นั่นคือ ……..

.
​1. การรับประกันความเสียหายของทรัพย์สินที่ขนย้าย
​หลายคนอาจคิดว่าบริษัทขนย้ายจะรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ส่วนใหญ่การรับประกันของแต่ละบริษัทฯนั้นมีขอบเขตจำกัดและขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบเสนอราคาหรือสัญญา หลายครั้งที่เราพบว่า สมมติค่าบริการขนย้าย 10,000 บาท แต่บริษัทฯรับผิดชอบความเสียหายเพียง 20% หรือไม่เกิน 2,000 บาทของมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
​ยกตัวอย่างเช่น หากระหว่างการขนย้ายคอมพิวเตอร์มูลค่า 30,000 บาทตกเสียหาย แต่ในสัญญาบริษัทขนย้ายรับผิดชอบเพียง 20% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น คุณอาจจะได้รับค่าชดเชยเพียง 2,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมหรือจัดซื้อใหม่อย่างแน่นอน !!

.

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกบริษัทขนย้าย ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันให้ละเอียดถี่ถ้วน รวมถึงสอบถามเรื่องวงเงินความรับผิดชอบสูงสุดที่บริษัทกำหนดไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้


2. ความรับผิดชอบต่อความเสียหายของสถานที่ขนย้าย
​นอกจากทรัพย์สินของคุณแล้ว ยังมีความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสถานที่ทั้งต้นทางและปลายทาง เช่น ผนังขูดขีดเป็นรอย, ลิฟท์ถลอก, พื้นอาคารเสียหาย ฯลฯ ซึ่งค่าซ่อมแซมเหล่านี้ ล้วนสูงกว่าค่าบริการขนย้ายทั้งหมดเสียอีก เช่น สมมติว่าระหว่างการขนย้าย พนักงานขนของทำกำแพงทางเดินของอาคารไปยังลิฟท์ขนของเป็นรอยลึก และค่าซ่อมแซมอยู่ที่ 5,000 บาท บางบริษัทรับผิดชอบให้คุณแต่ก็ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของราคาค่าบริการ แถมบางบริษัทฯอาจไม่รับผิดชอบความเสียหายต่อโครงสร้างอาคาร ลิฟท์ สถานที่ขนย้าย ดังนั้นคุณอาจจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้เองทั้งหมด ต้องระวัง !!

.

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ ควรตกลงหรือทำสัญญาให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น ข้อแนะนำควรตกลงเรื่องความรับผิดชอบเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น เพราะหากเค้าไม่ยอมชดใช้ คุณก็สามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้


​สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตกลงใช้บริการขนย้าย

.
​1.ตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกัน สอบถามให้แน่ใจว่าบริษัทขนย้ายที่คุณเลือกนั้น รับประกันความเสียหายต่อทรัพย์สินของคุณครอบคลุมถึงเท่าไร และมีวงเงินสูงสุดเท่าใด ต้องระบุความรับผิดชอบเป็นลายลักษณ์อักษรจะดีที่สุด


​2.ทำความเข้าใจขอบเขตความรับผิดชอบ ตรวจสอบว่าสัญญาครอบคลุมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงอาคารและสถานที่ที่ขนย้ายด้วยหรือไม่ หากไม่ครอบคลุมถึง คุณไม่ควรเลือกใช้บริการเด็ดขาด เพราะหากเกิดความเสียหายระหว่างขนย้าย อาทิ ลิฟท์ ผนัง พื้น อื่นๆ คุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองแต่เพียงผู้เดียว ทั้งที่คุณไม่ได้เป็นผู้ทำเสียหาย !!

สรุป
ควร​เลือกบริษัทขนย้ายที่น่าเชื่อถือ เลือกบริษัทขนย้ายที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ และมีชื่อเสียงที่ดี มีการรับประกันทั้งสินค้าและสถานที่ขนย้ายให้คุณในวงเงินที่สูง เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาในภายหลัง การให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ต้น ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องทรัพย์สินของคุณ แต่ยังช่วยให้กระบวนการขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดอีกด้วย